อย่างที่ทราบกันว่า การรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ไม่สามารถเข้ารับการรักษาได้ทุกคน ถึงแม้ว่า การฝังรากฟันเทียม จะเป็นที่นิยมและเป็นการรักษาทางทันตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงในเรื่องของการทดแทนฟันธรรมชาติ แต่ร่างกายของทุกคน ย่อมแตกต่างกัน
การรับมือกับรากฟันเทียมย่อมแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพช่องปากหลังจากที่เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้ว เพราะการดูแลตัวเองก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากละเลยหรือไม่ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ก็อาจจะทำให้เกิดการล้มเหลวในการรักษาได้ โดยผู้เข้ารับการรักษาจะต้องสังเกตอาการด้วยตนเองด้วย หากมีอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายปฏิเสธรากฟันเทียม ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์
หลังจากขั้นตอนการฝังรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษาควรเข้าพบทันตแพทย์ โดยครั้งแรกจะเกิดขึ้นใน 2-3 วันหลังจากฝังรากฟันเทียมการตรวจสอบดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการตรวจหาปัญหาที่เป็นไปได้อย่างทันท่วงที เพราะกรณีที่มีการปฏิเสธรากฟันเทียม มักเกิดขึ้นในวันแรกหลังการผ่าตัดดังนั้นในขั้นตอนนี้ควรมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ โดนทันตแพทย์จะทำการประเมินความแข็งแรงของรากฟันเทียมและเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆด้วย หากมีอาการร่างกายปฏิเสธรากฟันเทียม ผู้เข้ารับการรักษาจะมีอาการอักเสบ และอาการปวดที่รุนแรง อาจจะการบวมของเหงือกเข้าร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้การรักษาเกิดความล้มเหลวได้ และจะส่งผลเสียอีกมากมายต่อสุขภาพช่องปากและฟัน
นอกจากนี้หากมีเลือดออกเป็นเวลานานจากบาดแผลเช่นเดียวกับการปล่อยอาการดังกล่าวทิ้งไว้เป็นเวลามากกว่า 7 วันจะไม่ดี ส่งผลเสียต่อเหงือกและฟัน ควรสังเกตความคล่องตัวของรากฟันเทียมในหลาย ๆ กรณีเป็นไปได้ที่จะคาดเดาได้ทันทีว่าโครงสร้างนี้ไม่น่าจะหยั่งรากลึกในอนาคตและยิ่งถ้ามีกลิ่นเหม็นอยู่ใต้ปลั๊กที่ติดตั้งอยู่บนรากฟันเทียม มีหนองจากเหงือกหรือเกิดฝีที่สามารถอยู่ติดกับรากฟันเทียมและสื่อสารกับการอักเสบผ่านการสะสมของรูหรืออาจเกิดขึ้นโดยตรงจากใต้รากฟันเทียมหากพบอาการเหล่านี้ ผู้เข้ารับการรักษาต้องรีบปรึกษาทันตแพทย์ผู้ทำการรักษาเพื่อทำการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ผู้เข้ารับการรักษาจะได้ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนเกินขึ้นในอนาคต
จัดฟันบางนา: อาการเบื้องต้น ที่บ่งบอกว่า ร่างกาย ปฏิเสธรากฟันเทียม ! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/