โครงการบ้านจัดสรร เป็นที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยบ้านที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม และพื้นที่ส่วนกลางที่ครบครัน ซึ่งถือว่าสามารถรองรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการความสะดวกสบายของคุณในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่า การจะเลือกโครงการบ้านจัดสรรให้เป็นผลดีต่อครอบครัว เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ และใส่ใจกับมันเป็นอย่างมาก เพราะหากคุณตัดสินใจซื้อไปแล้ว แต่มีปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่เกี่ยวกับตัวบ้านเอง เพื่อนบ้าน และส่วนกลาง ก็คงจะสร้างความปวดหัวให้กับคุณได้ไม่ใช่น้อย
ดังนั้นจึงจะมาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกโครงการบ้านให้คุณได้ทราบกัน หากนำข้อมูลเหล่านี้ไปทำตาม รับรองว่า โครงการบ้านที่คุณเลือก จะไม่มีปัญหาน่าปวดหัวมาให้คุณต้องตามแก้อย่างแน่นอน แต่ก่อนอื่น เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับนิยามของโครงการบ้านจัดสรรให้แน่ชัดเสียก่อนดีกว่า
นิยมของคำว่าโครงการบ้านจัดสรร
โครงการบ้านจัดสรรหรือหมู่บ้าน คือแหล่งที่อยู่อาศัยที่ออกแบบบ้านให้มีลักษณะโครงสร้างคล้ายคลึง และแบ่งบริเวณบ้านตามพื้นที่เท่า ๆ กัน โดยมีขนาดให้เลือกตั้งแต่เล็ก กลาง ใหญ่ เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้าที่มีความสนใจและกำลังซื้อที่ต่างกัน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่ลูกบ้าน ให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อีกด้วย
7 วิธีเลือกโครงการบ้านจัดสรรทำตามนี้ไม่มีปวดหัว
1. เลือกประเภทที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับครอบครัว
ในปัจจุบันมีที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภทให้เลือกตามความเหมาะสม เช่นเดียวกับในโครงการบ้านจัดสรรที่โดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ให้เลือกตามความต้องการและความพร้อมของลูกค้า ซึ่งก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อ คุณควรจะพิจารณาและเปรียบเทียบความเหมาะสมของที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับครอบครัวของคุณก่อน
โดยอาจจะพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัวและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ลนอกจากนี้ ยังควรมีการสอบถามความคิดเห็นจากสมาชิกคนอื่น ๆ เพื่อรับฟังความคิดเห็น และเพื่อให้เกิดความพึงพอใจกับสมาชิกทุกคน
2. พื้นที่ใช้สอยที่เป็นสัดส่วน และตอบโจทย์
หลังจากเลือกประเภทบ้านที่ต้องการได้แล้ว อันดับต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกบ้าน โดยในข้อนี้ ควรจะพิจารณาจากจำนวนสมาชิกในครอบครัว เพื่อให้สามารถกำหนดขนาดพื้นที่ที่เพียงพอได้ เช่น กำหนดจำนวนของห้องนอน ห้องน้ำ ขนาดของห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่นำมาพิจารณาว่า ควรมีสวน หรือพื้นที่รอบตัวบ้านเท่าไหร่จึงจะเพียงพอสำหรับการทำกิจกรรมร่วมกัน
3. งบประมาณและราคา
แน่นอนว่า ปัจจัยหลักในการซื้อบ้านสักหลังก็คือ “เงิน” หรืองบประมาณที่ตั้งไว้ ซึ่งเราเชื่อว่า หลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า บ้านที่อยู่ในตัวเมือง หรือใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ย่อมมีราคาสูงกว่าบ้านที่อยู่นอกเมืองหรือแถบชานเมือง นอกจากนี้ ขนาดและประเภทบ้านก็มีผลต่อราคาที่สูง-ต่ำด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณจึงจำเป็นจำต้องกำหนดงบประมาณ และวางแผนให้ดีว่า ต้องซื้อบ้านที่ราคาเท่าไหร่ จึงจะไม่เกิดปัญหาด้านการเงินภายหลัง
4. เลือกโครงการที่ไว้ใจได้
หลายคนคงจะได้ยินข่าวอยู่บ่อย ๆ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในโครงการบ้านจัดสรร ไม่ว่าจะเป็น โครงการสร้างไม่เสร็จหรือสร้างไม่ดี จ่ายค่าส่วนกลางไป แต่พื้นที่ส่วนกลางไม่ได้รับการดูแลซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้ หรือมีการโกงเงินค่าส่วนกลาง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากคุณเลือกโครงการที่ไว้ใจได้ และไม่มีประวัติเสีย
โดยคุณควรจะสอบถามจากคนที่อยู่อาศัยในโครงการนั้น ๆ หรือสอบถามข้อมูลจากบุคคลอื่นผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น พันทิป กลุ่ม Facebook เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรค้นหาประวัติของโครงการนั้นด้วยตัวเองเพื่อความมั่นใจอีกครั้งด้วย
5. ทำเลที่ตั้งและทิศทางบ้าน
ทำเลที่ตั้งของโครงการ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เนื่องจากทำเลที่ตั้งจะส่งผลกับความสะดวกสบายในการเดินทาง โดยคุณควรจะคำนึงถึงสถานที่ทำงาน โรงเรียน ของสมาชิกในครอบครัว รวมถึงขนส่งสาธารณะที่อยู่โดยรอบว่ามีเพียงพอหรือไม่ นอกจากนี้ยังควรให้ความใส่ใจกับการเลือกทิศทางของตัวบ้านด้วยเช่นกัน โดยทิศใต้และทิศตะวันตก จะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดมากที่สุดในช่วงกลางวัน ส่วนทิศตะวันออกจะได้รับแสงแดดในช่วงเช้า และทิศเหนือจะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดน้อยที่สุด ดังนั้น จึงควรดูความเหมาะสมของแต่ละห้อง รวมถึงไลฟ์สไตล์ของสมาชิกครอบครัว เช่น หากเป็นคนที่ชอบตื่นเช้า ก็ควรจะเลือกบ้านที่หันไปทางทิศตะวันออก เป็นต้น
6. วัสดุก่อสร้างและการตกแต่ง
โครงการบ้านแต่ละแห่ง มีการเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้าง พื้น ผนัง กำแพง หรือแม้แต่สุขภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งในข้อนี้ คุณควรจะสอบถามจากเจ้าหน้าที่โครงการเกี่ยวกับวัสดุที่เลือกใช้ ว่าเป็นวัสดุที่มีคุณภาพหรือไม่ นอกจากนี้ ยังควรพิจารณาด้วยว่า การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกบ้าน ว่ามีความสวยงามและตรงกับความต้องการของคุณและสมาชิกไหม เพื่อให้ได้บ้านที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด
7. สภาพแวดล้อมภายในโครงการ
เนื่องจากบ้านเป็นสถานที่ที่คุณใช้เวลาในการพักผ่อน และทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในครอบครัว การมีสภาพแวดล้อมภายในโครงการที่ดี และพร้อมให้คุณออกมาทำกิจกรรม จะช่วยให้คุณมีอิสระในการพักผ่อนมากขึ้น นอกจากนี้ การมีเพื่อนบ้านที่น่ารัก เข้าใจ และพร้อมให้ความช่วยเหลือ ก็จะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน ก็อย่าลืมเข้ามาสำรวจสภาพแวดล้อมภายในโครงการด้วยตัวเอง เพื่อพิจารณาและเลือกที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด
เชื่อว่าสิ่งที่เราได้รวบรวมมา น่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่ซื้อบ้านอยู่พอสมควร และเมื่อคุณได้ข้อมูลดี ๆ แบบนี้ไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปแบ่งปันให้เพื่อน หรือคนรอบข้างของคุณได้รู้กัน รับรองว่า ถ้าคุณนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ คุณจะไม่ต้องพบเจอกับปัญหาน่าปวดหัวอย่างแน่นอน
จัดสรรบ้านขาย: เลือกบ้านโครงการบ้านจัดสรร ยังไงให้ปัง ไม่มีพัง อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://realestatebb.com/