ผู้เขียน หัวข้อ: ความงาม: เข้าใจใน “เชื้อราที่ผิวหนัง” และวิธีการดูแลและรักษา  (อ่าน 191 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 616
    • ดูรายละเอียด
สำหรับ เชื้อราที่ผิวหนัง คือปัญหาทางผิวหนังที่พบบ่อยทั้งยังเพศหญิงและก็เพศชาย เป็นเหตุให้เกิดอาการคัน แดง บวม เป็นผื่น หรือมีการเคืองรอบๆผิวหนัง โดยสามารถกำเนิดได้กับทุกส่วนของร่างกาย ทั้งยังสร้างความหงุดหงิดและก็ทำให้ขาดความเชื่อมั่นได้ไม่น้อย ในเนื้อหานี้ก็เลยได้เก็บรวบรวมแบบอย่างโรคติดเชื้อราที่พบได้มาก พร้อมแนวทางรักษาแล้วก็การคุ้มครองป้องกันมาฝากกัน

โรคเชื้อรา ที่ผิวหนังหรืออีกชื่อหนึ่งเป็นโรคเชื้อรา เป็นโรคผิวหนังที่เกิดขึ้นมาจากการได้รับเชื้อรา ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่งที่อาศัยอยู่ตามพื้นดิน พืช ผิวของเครื่องใช้สอยหรือเครื่องเรือนในบ้าน รวมทั้งผิวหนังของผู้คน การได้รับเชื้อราบางทีอาจกำเนิดได้จากการสัมผัสกับเชื้อราโดยตรง การสัมผัสผู้ติดโรค สัตว์ เสื้อผ้ารวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ ส่วนการดูแลรักษาเชื้อราที่ผิวหนังนั้นทำเป็นโดยการใช้ยาต่อต้านเชื้อราพร้อมกันไปกับการปรับพฤติกรรม



ตัวอย่างโรคเชื้อรา

ขี้กลาก (Ringworm) เป็นโรคติดเชื้อโรคราบนผิวหนังที่พบบ่อย โดยผู้ติดเชื้อโรคจะมีผื่นคันปรากฏบนผิวหนังเป็นวงแดงหรือขุยสีขาว และก็อาจมีอาการอักเสบเหมือนผื่นแดงเกิดขึ้นร่วมด้วย ซึ่งขี้กลากสามารถขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย ตั้งแต่หนังหัว บริเวณใบหน้า มือ เท้า เล็บ แล้วก็ขาหนีบ โดยเจอได้กับคนทุกเพศทุกวัย สำหรับต้นเหตุของขี้กลากนั้นเป็นผลมาจากเชื้อราที่ผิวหนังในกรุ๊ปเดอมาโทไฟท์ (Dermatophytes) ที่อาศัยอยู่บนเซลล์หนังกำพร้าของคนเราซึ่งแพร่ระบาดได้จากการสัมผัสคนหรือสัตว์ที่ติดเชื้อโรค การสัมผัสดินที่มีเชื้อรา รวมทั้งการสัมผัสข้าวของที่มีเชื้อราเกาะอยู่ ตัวอย่างเช่น เสื้อผ้า ผ้าที่เอาไว้เช็ดตัว ผ้าที่มีไว้สำหรับปูที่นอน แล้วก็หวี ฯลฯ

โรคเกลื้อน (Tinea Versicolor) เป็นโรคติดโรคเชื้อราที่ผิวหนัง สามารถกำเนิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แม้กระนั้นพบได้มากในวัยรุ่นแล้วก็วัยผู้ใหญ่ช่วงต้น มักเกิดขึ้นรอบๆแขนส่วนบน ทรวงอก แล้วก็ข้างหลัง ปรากฏเป็นดวงเล็กๆสีแดง ชมพู หรือน้ำตาล อาจมีสีแก่หรืออ่อนกว่าผิวหนังรอบๆรอบ ทำให้ผิวแห้ง เป็นสะเก็ด รวมทั้งคัน โดยโรคเกลื้อนมีเหตุที่เกิดจากเชื้อมาลาสซีเซีย (Malassezia) ซึ่งธรรมดาผิวของมนุษย์จำนวนมากจะมีเชื้อราจำพวกนี้อยู่แล้ว แต่ว่าปริมาณที่มากกว่าธรรมดาจะนำมาซึ่งการทำให้ติดเชื้อโรคได้ สำหรับต้นเหตุที่บางทีอาจเป็นต้นเหตุทำให้เชื้อราเติบโตมากจนเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น ลักษณะอากาศที่ร้อน ภาวะผิวมัน สภาวะเหงื่ออกมากมาย ความเคลื่อนไหวของฮอร์โมน และก็ระบบภูมิต้านทานที่อ่อนแอ แม้กระนั้น โรคกลากจะไม่แพร่ไปสู่คนอื่นๆ เพราะเหตุว่าคนโดยมากมักมียีสต์มาลาสซีเซียอยู่บนผิวหนังอยู่แล้ว

สังคัง (Tinea Cruris) เป็นโรคติดเชื้อโรคราบนผิวหนังที่มักกำเนิดรอบๆต้นขาภายในแล้วก็ขาหนีบ นำมาซึ่งการทำให้ผิวหนังรอบๆดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นผื่นแดงอักเสบรวมทั้งคัน บางทีอาจปรากฏเป็นแผ่นหรือเป็นวง พบมากในผู้ชายวัยรุ่นรวมทั้งวัยผู้ใหญ่ โดยอาการบางทีอาจร้ายแรงขึ้นข้างหลังการบริหารร่างกาย รวมทั้งบางทีอาจแพร่ระบาดไปสู่รอบๆตูดแล้วก็พุงได้ ที่มาของการเกิดสังคังนั้นมาจากการได้รับเชื้อราที่เติบโตได้ดิบได้ดีในที่อับและก็ชื้นแฉะ ซึ่งเชื้อสามารถแพร่จากคนสู่คนรวมทั้งผ่านการใช้ข้าวของที่ติดเชื้อโรคด้วยกัน ได้แก่ ผ้าขนหนู แล้วก็เสื้อผ้า ฯลฯ

 

รักษาอย่างไร

โรคเชื้อรา ที่ผิวหนังสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาต่อต้านเชื้อรา โดยในตลาดมีอยู่หลายกรุ๊ปร่วมกัน แม้กระนั้นกลุ่มยาที่ถูกประยุกต์ใช้รักษาอย่างล้นหลามเป็นยาต่อต้านเชื้อรากลุ่มอิมิดาโซล (Imidazoles) ยากลุ่มนี้เป็นยาทาภายนอกที่มีคุณลักษณะกำจัดเชื้อรารวมทั้งยั้งการเติบโตของเชื้อราที่ทำให้เกิดการรับเชื้อรอบๆต่างๆของร่างกายได้โดยตรง สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วๆไปแล้วก็มีอยู่มากมายต้นแบบ อีกทั้งยาครีม ยาเหน็บ ยาเม็ด โลชั่น หรือสเปรย์



ป้องกันอย่างไร

โรคเชื้อราที่ผิวหนังคุ้มครองป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขลักษณะของตนอยู่ตลอด รวมทั้งเปลี่ยนแปลงการกระทำเพื่อลดการเสี่ยงสำหรับการได้รับเชื้อ ดังต่อไปนี้ เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกหนข้างหลังว่ายหรือบริหารร่างกาย ชำระล้างข้าวของที่จะต้องใช้ร่วมกับคนอื่นทุกหนก่อนใช้ อย่างเช่น เสื่อ หรือเครื่องมือในฟิตเนส ฯลฯ ใช้ยาต้านทานเชื้อรารูปแบบผงโรยในรองเท้า

ไม่ใช้ข้าวของส่วนตัว ร่วมกับคนอื่นๆ ดังเช่นว่า ผ้าขนหนู เสื้อผ้า ที่ตัดเล็บ หรือหวี ฯลฯ ไม่สวมเสื้อผ้า ถุงเท้า หรือเสื้อชั้นในซ้ำ ไม่สวมรองเท้าหรือเสื้อผ้าที่มีขนาดเล็กเกินความจำเป็น หลบหลีกการเดินบนพื้นด้วยเท้าเปล่า เลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่มีลักษณะหรือสัญญาณของโรคติดเชื้อรา ได้แก่ ขนหล่น มีลักษณะอาการคันและก็เกาบ่อยครั้ง ฯลฯ


ความงาม: เข้าใจใน “เชื้อราที่ผิวหนัง” และวิธีการดูแลและรักษา อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.healthyhitech.net/