อาหารสายยางสำหรับผู้ป่วยมีปัญหาการกลืนผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืน (Dysphagia) เป็นกลุ่มหลักที่จำเป็นต้องได้รับอาหารทางสายยางค่ะ จุดประสงค์หลักคือการ หลีกเลี่ยงช่องปากและลำคอ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการนำอาหารเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรง
การเลือกสูตรอาหารสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ มักจะพิจารณาจาก ความสามารถในการย่อยและการดูดซึมอาหาร ของผู้ป่วย มากกว่าปัญหาการกลืนโดยตรง เนื่องจากอาหารจะเข้าสู่กระเพาะอาหารโดยตรงอยู่แล้ว
🥣 การเลือกอาหารสายยางสำหรับผู้มีปัญหาการกลืน
โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่มีปัญหาการกลืน (แต่ระบบย่อยอาหารยังทำงานได้ปกติ) จะเริ่มใช้สูตรอาหารเหล่านี้:
สูตรมาตรฐาน (Polymeric Formula): เป็นทางเลือกแรกที่ใช้บ่อยที่สุด เนื่องจากมีสารอาหารครบถ้วน (โปรตีนเต็มรูป คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน) ในราคาที่คุ้มค่า และร่างกายสามารถย่อยได้ตามปกติ
สูตรเฉพาะโรค: หากปัญหาการกลืนนั้นเกิดจากโรคพื้นฐานที่ต้องควบคุมสารอาหาร (เช่น เบาหวาน, โรคไต, หรือการฟื้นตัวจากการผ่าตัด) ก็ต้องเลือกสูตรที่เหมาะสมกับโรคนั้น ๆ ควบคู่ไปด้วย
ข้อสังเกต: หากผู้ป่วยมีการสำลักน้ำลายบ่อย หรือมีภาวะกรดไหลย้อนรุนแรง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อปอดอักเสบ อาจมีการพิจารณาใช้สูตรที่มี ใยอาหารสูง เพื่อช่วยให้กระเพาะอาหารว่างเร็วขึ้น และช่วยลดโอกาสเกิดอาการไหลย้อนกลับ
⚠️ การจัดการความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด
เนื่องจากผู้ป่วยมีปัญหาการกลืน มักจะมีอาการ กลืนน้ำลายลำบาก หรือมีภาวะ กรดไหลย้อน (Reflux) ร่วมด้วย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการสำลัก (Aspiration) จากอาหารที่ไหลย้อนกลับหรือน้ำลายที่ค้างอยู่ในคอ ดังนั้นผู้ดูแลต้องเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย:
จัดท่าที่ถูกต้อง: ต้องจัดผู้ป่วยให้อยู่ในท่า ศีรษะสูง 30–45 องศา ตลอดเวลาที่ให้อาหารและคงท่าไว้อย่างน้อย 30–60 นาที หลังให้อาหารเสร็จสิ้น
ควบคุมความเร็ว: ให้สารอาหารไหลลง ช้า ๆ (15–20 นาทีต่อมื้อ) เพื่อให้กระเพาะอาหารมีเวลาในการรับและย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของการไหลย้อน
การดูแลช่องปาก: ต้องทำความสะอาดช่องปากและแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งหากสำลักน้ำลายหรือเสมหะเข้าไป จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดปอดอักเสบจากการสำลัก
ควรปรึกษานักโภชนาการและแพทย์เพื่อยืนยันสูตรอาหารและปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการพลังงานของผู้ป่วยค่ะ