ผู้เขียน หัวข้อ: จัดฟันแบบโลหะ คืออะไร ดีไหม ข้อดี-ข้อเสีย ใช้เวลานานไหม ราคาเท่าไหร่  (อ่าน 950 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 613
    • ดูรายละเอียด
ฟันไม่สวย อยากจัดฟัน เพิ่มความมั่นใจ จะเลือกจัดฟันแบบไหนดี เพราะปัจจุบันการจัดฟันมีให้เลือกหลายแบบ แล้วแบบไหนที่จะเหมาะกับตัวเราที่สุด สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตอบโจทย์ทั้งระยะเวลาในการรักษาและราคาที่สมเหตุสมผล


จัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟันแบบโลหะ ถือว่าการเป็นการจัดฟันที่คนนิยมทำกันเยอะที่สุด ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เพราะการจัดฟันแบบโลหะ ช่วยแก้ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน ฟันห่าง การสบฟันไม่ดี และราคาไมแพงเหมือนการจัดฟันแบบอื่น


จัดฟันแบบโลหะ คืออะไร

จัดฟันแบบโลหะ ช่วยแก้ปัญหาการเรียงตัวของฟันที่ไม่เป็นระเบียบ ให้เรียงตัวสวยเป็นระเบียบตามที่ต้องการ และยังช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียว และการจัดฟันแบบโลหะยังถือเป็นแฟชั่น จึงไม่น่าแปลกใจที่เห็นวัยรุ่น ดารา นักร้อง นักแสดง และคนทั่วไปนิยมทำกัน

หากใคร กำลังหาข้อมูลจัดฟัน คุณหมอขอแนะนำให้อ่านข้อมูลการจัดฟันกับทาง smile and co dental clinic ก่อน เพื่อให้ มีข้อมูลที่พร้อมก่อนการตัดสินใจ คุณหมอเตรียมไว้ให้ 2 บทความสำคัญครับ

    การจัดฟัน คืออะไร มีกี่แบบ ใครอยากจัดฟันควรอ่าน
    จัดฟันครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร ราคาเท่าไหร่


จัดฟันแบบโลหะ มีกี่แบบ

การจัดฟันแบบโลหะมี 2 แบบ คือ

    จัดฟันโลหะแบบรัดยาง (Metal braces) เป็นการจัดฟันแบบโลหะธรรมดา ใช้เครื่องมือจัดฟันโลหะติดบนผิวฟัน ซึ่งลวดจัดฟันจะถูกรัดอยู่ในตัวแบร็คเก็ตด้วยยางจัดฟัน เพื่อให้ฟันมีการเคลื่อนที่ถูกต้อง ตรงตำแหน่งตามที่ทันตแพทย์กำหนดไว้
    จัดฟันแบบดามอน (Damon) เป็นการจัดฟันที่ไม่ต้องใส่ยางจัดฟัน เพราะเครื่องมือจัดฟันแบบดามอนถูกออกแบบให้มีคลิปล็อคลวดจัดฟันอยู่ในตัวแบร็คเก็ต ทำให้ฟันเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่ทันตแพทย์กำหนดไว้ได้ง่าย ลดแรงกดที่เกิดจากยางจัดฟัน ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยกว่า


จัดฟันแบบโลหะ-ใช้ยางมัด

จัดฟันแบบโลหะ แตกต่างอย่างไรกับการจัดฟันชนิดใส

ความแตกต่างระหว่างการจัดฟันแบบโลหะกับการจัดฟันแบบใส คือ เครื่องมือที่ใช้มีความแตกต่างกัน

จัดฟันแบบโลหะ นั้นจะไม่สามารถถอดเครื่องมือออกได้ การทำความความสะอาดช่องปากจึงทำได้ยากกว่า ต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร ใช้ระยะเวลาการจัดฟันประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล และมีราคาถูกกว่าการจัดฟันแบบใส

จัดฟันแบบใส ด้วยความที่เครื่องมือที่ใช้ทำจากพลาสติก มีความบางและใส เวลาสวมใส่แทบจะไม่สังเกตเห็นว่ากำลังจัดฟันอยู่ และสามารถถอดเครื่องมือออกได้ ไม่ระคายเคืองปาก และยังสามารถรับประทานอาหาร ทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ ใช้ระยะเวลาการจัดฟันประมาณ 6 เดือน-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล และมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ


จัดฟันแบบโลหะ

นอกจากนี้ยังมีการจัดฟันแบบเซรามิก ที่เหมือนกับการจัดฟันแบบโลหะ คือมีการติดเครื่องมือแบร็คเก็ตและใช้ลวดบังคับแรงและทิศทางในการเคลื่อนที่ของฟัน

จะแตกต่างก็ตรงการจัดฟันแบบเซรามิก จะมีความกลมกลืนกับสีของฟันมาก จนสังเกตได้ยากว่ากำลังจัดฟันอยู่หรือไม่ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการจัดฟัน แต่ไม่อยากให้คนอื่นสังเกตเห็น ใช้ระยะเวลาการจัดฟันประมาณ 2 ปีขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล และมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ


ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ

    ช่วยให้ฟันที่เก ซ้อน ห่าง เรียงตัวสวยงามเป็นระเบียบตามต้องการ
    ช่วยเพิ่มความมั่นใจ ทำให้บุคลิกภาพดีขึ้น กล้าพูด กล้าพบปะกับผู้คนมากขึ้น
    ช่วยทำให้การเคี้ยวอาหารดีขึ้น และการสบฟันดีขึ้น
    ช่วยทำให้สุขภาพปากและฟันดีขึ้น เพราะทำความสะอาดเข้าถึงทุกซี่ จึงทำให้ฟันผุน้อยลง
    ช่วยให้กลิ่นปากลดลง เพราะทำความสะอาดช่องปากทั่วถึง
    ช่วยปรับรูปให้ดูเรียวขึ้น


ข้อเสียการจัดฟันแบบโลหะ

    จะรู้สึกตึงๆปากและเจ็บในช่วงจัดฟันและช่วงการเคลื่อนของฟัน
    ช่วงที่จัดฟันอยู่จะทำความสะอาดฟันยากกว่าปกติ ซึ่งอาจส่งผลทำให้มีกลิ่นปากและฟันผุได้
    หลังจัดฟันก็ยังต้องใส่รีเทนเนอร์
    พบทันตแพทย์บ่อย และใช้เวลานาน 1-3 ปี อยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล
    ค่าใช้จ่ายสูง ถึงแม้เทียบการจัดฟันแบบอื่นจะถูกกว่าก็ตาม


ประโยชน์ของการจัดฟันแบบโลหะ

จัดฟันแบบโลหะพบเห็นได้บ่อย และยังคงได้รับความนิยม ด้วยข้อดีที่นอกจากช่วยแก้ปัญหาฟันได้ทุกรูปแบบ เช่น ฟันเก ฟันซ้อน ฟันยื่น ฟันห่าง ฟันล้ม ให้ฟันกลับมาเรียงสวยเป็นระเบียบ สามารถสบฟันหรือบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจแล้ว การจัดฟันแบบโลหะยังมีราคาถูกกว่าการจัดฟันประเภทอื่น ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมเลือกจัดฟันแบบโลหะ


ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะ

หลาย ๆ คนที่จัดฟันแบบโลหะยังชื่นชอบและสนุกกับการเลือกสียางจัดฟัน และเปลี่ยนสีสันไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนยาง เรียกได้ว่าเป็นแฟชั่นอย่างหนึ่งของการจัดฟันแบบโลหะเลยก็ว่าได้ ซึ่งโทนสีของยางจัดฟันที่มีให้เลือกหลากหลายสีนั้น ยังสามารถบ่งบอกบุคลิกและนิสัยของแต่ละบุคคลได้อีกด้วย


เริ่มจัดฟันได้อายุเท่าไหร่

การจัดฟันไม่ใช่เรื่องแปลก สามารถทำได้ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ที่มีปัญหาการสบฟันและฟันไม่เรียงตัวสวยตามต้องการ วัยที่ควรเริ่มจัดฟันควรทำในเด็กที่มีฟันแท้ขึ้นครบแล้ว อายุราว ๆ 11-13 ปี


ขั้นตอนการจัดฟันแบบโลหะ

    ปรึกษาทันตแพทย์ ตรวจวินิจฉัยโครงสร้างฟัน ทำประวัติก่อนการจัดฟัน ได้แก่ พิมพ์ฟัน ถ่ายรูป และถ่าย x-ray ทราบข้อดี-ข้อเสียเกี่ยวกับการจัดแบบโลหะ และการจัดฟันแบบอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ
    เคลียร์ช่องปากก่อนจัดฟัน เช่น ขูดหินปูน, ถอนฟัน, อุดฟัน, ผ่าฟันคุด เป็นต้น
    นัดหมายติดเครื่องมือจัดฟัน
    หลังจากติดเครื่องมือจัดฟัน ทันตแพทย์จะนัดปรับลวดประมาณ 1 เดือนครึ่ง-2 เดือนครั้ง
    เมื่อจัดฟันเสร็จทันตแพทย์จะถอดเครื่องมือจัดฟัน แล้วจะพิมพ์ฟันทำรีเทนเนอร์ ซึ่งมีหลากหลายแบบ ได้แก่ รีเทนเนอร์แบบใส รีเทนเนอร์แบบลวด รีเทนเนอร์แบบติดแน่น และรีเทนเนอร์แบบโลหะ เพื่อใช้คงสภาพฟัน ซึ่งควรใส่ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อไม่ให้ฟันเคลื่อนกลับไปตำแหน่งเดิม
    ตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุกปีหลังจัดฟันเสร็จ เพื่อให้ฟันเรียงตัวสวยและแข็งแรง และลดปัญหาในช่องปาก



ระยะเวลาในการจัดฟันแบบโลหะ

การจัดฟัน ประเภทโลหะ มี 2 แบบครับ แบบ ใช้ยาง กับไม่ใช้ยาง ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันก็แตกต่างกันด้วยครับ

จัดฟันโลหะแบบรัดยาง (Metal braces) จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล
จัดฟันแบบดามอน (Damon) จะใช้ระยะเวลาประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและโครงสร้างฟันของแต่ละบุคคล


จัดฟันโลหะราคาเท่าไหร่

การจัดฟันแบบโลหะ ถึงจะราคาไม่สูงเท่าการจัดฟันแบบอื่น แต่ก็ถือว่าราคายังสูงอยู่พอสมควร ซี่งราคาการจัดฟันแบบโลหะจะอยู่ที่ประมาณ 39,000 – 48,000 บาท ซึ่งปัจจุบันทางคลินิกหรือโรงพยาบาลมีระบบผ่อนชำระสำหรับคนที่ไม่สะดวกจ่ายเงินสด เช่น แบ่งชำระผ่อนจ่ายเดือนละ 1,500 บาท


จัดฟันแบบโลหะ คืออะไร ดีไหม ข้อดี-ข้อเสีย ใช้เวลานานไหม ราคาเท่าไหร่ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/